รวมงาน เว็บบล็อก และ Google SketchUp 8
"งานจากเว็บบล็อก"
1.ประวัติส่วนตัวของฉัน
ชื่อ ด.ญ. จิดาภา แซ่ตั้ง
ชื่อเล่น ปุ้มปุ้ย
เลขที่ 7 ชั้น ม.1/1
โรงเรียนลำปางกัลยาณี
อายุ 12 ปี
เกิดวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2545
น้ำหนัก 42 กิโลกรัม
ส่วนสูง 151 เซนติเมตร
ชอบสี : ชมพู
อาหารที่ชอบ : ข้าวผัด
กีฬาที่ชอบ : แบดมินตัน
งานอดิเรก : อ่านหนังสือ , ฟังเพลง
วิชาที่ชอบ : อังกฤษ , คณิต
วิชาที่ไม่ชอบ : วิทยาศาสตร์ , สังคมศึกษา
นิสัย : เป็นคนร่าเริง , มองโลกในแง่ดี , เป็นมิตรกับทุกคน
อนาคต : ในอนาคตอยากเป็น " คุณครู "
มีพี่ชาย 1 คน
ชื่อ : นาย ปรัชญา แซ่ตั้ง
บิดาชื่อ : นาย วรากร แซ่ตั้ง
มารดาชื่อ : นางสาว มานฑวรรณ ตติยสัมฤทธิ์
2.สมุนไพร
ยี่เข่ง
ยี่เข่ง ภาษาอังกฤษ Crape myrtle, Crape flower, Indian lilac (Yi-Kheng) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Lagerstroemia indica L. จัดอยู่ในวงศ์LYTHRACEAE
ยี่เข่ง ยังมีชื่อท้องถิ่นอื่นๆ อีก เช่น คำฮ่อ (ภาคเหนือ), จีหมุ่ยอวย (จีน-แต้จิ๋ว) โดยต้นยี่เข่งนั้นมีถิ่นกำเนิดในประเทศจีนและญี่ปุ่น กระจายพันธุ์ทั่วไปในเขตร้อนและเขตหนาว
ลักษณะของยี่เข่ง
- ต้นยี่เข่ง เป็นต้นไม้ขนาดเล็ก หรือไม่พุ่มขนาดใหญ่สูงประมาณ 3-7 เมตร ขนาดของพุ่มจะกว้างประมาณ 2-4 เมตร มีเปลือกลำต้นเรียบ สีน้ำตาลเป็นมัน มีสะเก็ดขาวลอกเป็นแผ่น ส่วนของผลยี่เข่ง มีลักษณะเป็น ผลแห้งแตก เปลือกแข็ง รูปถ้วย มีเมล็ดจำนวนมาก
- ใบยี่เข่ง ใบเป็นใบเดี่ยวสีเขียว ลักษณะใบคล้ายรูปไข่ โคนใบจะมน ปลายใบแหลม ขอบใบจะเรียบ ผิวใบจะมีขนสากมือเล็กน้อย โดยขนาดความกว้างของใบจะประมาณ 0.5-1.5 นิ้ว และยาวประมาณ 1-3 นิ้ว
- ดอกยี่เข่ง จะออกดอกเป็นช่อๆ ที่ปลายกิ่ง ส่วนล่างของดอกจะเป็นเส้นกลมเล็กๆ ส่วนบนจะบานแผ่ออกเป็นกลีบกลมขอบหยิกๆ มีรอยย่นยับ มีกลีบประมาณ 6 กลีบ มีเกสรกลางดอกปลายเป็นตุ้มสีเหลืองสด เมื่อดอกบานเต็มที่จะกว้างประมาณ 1.5 นิ้ว ส่วนสีของดอกก็มีสีขาว สีม่วง สีชมพู สีชมพูเข้มคล้ายสีบานเย็น และสีแดง ส่วนมากแล้วเราจะเห็นดอกยี่เข่งในช่วงเดือนสิงหาถึงเดือนตุลาคม
ประโยชน์ของยี่เข่ง
- เปลือกต้นยี่เข่งใช้เป็นยาลดไข้ได้ (เปลือกต้น)
- ช่วยทำให้เลือดไหลเวียนได้สะดวกขึ้น (ราก)
- ช่วยแก้อาการปวดฟัน ด้วยการใช้รากยี่เข่งผสมกับเนื้อหมูต้มกับน้ำรับประทาน (ราก)
- เปลือกต้นยี่เข่งมีฤทธิ์เป็นยากระตุ้นกระเพาะอาหาร ส่วนต้นและใบจะมีฤทธิ์ในการยับยั้ง (เปลือกต้น)
- ช่วยแก้บิด จะใช้ใบหรือรากยี่เข่งก็ได้นำมาต้มกับน้ำดื่ม (ใบ,ราก)
- ช่วยแก้โรคหนองใน ด้วยการใช้ดอกแห้ง 3-10 กรัม หรือจะใช้ดอกสด 15-30 กรัมต้มกับน้ำใช้ชะล้าง (ดอกยี่เข่ง)
- ช่วยแก้อาการตกเลือดหลังคลอดบุตรด้วยการใช้ดอกยี่เข่งสดต้มกับน้ำกินทั้งกาก (ดอกยี่เข่ง)
- ช่วยแก้ผดผื่นคัน ด้วยการใช้ใบสดนำมาต้มกับน้ำแล้วใช้ชะล้าง หรือจะนำมาตำแล้วพอกบริเวณที่เป็นก็ได้ (ใบ)
- ช่วยรักษาบาดแผลสด ด้วยการใช้ใบที่ตากแห้งแล้วนำมาบดเป็นผงแล้วนำมาโรยบริเวณบาดแผล (ใบ)
- ช่วยรักษาแผลฝี แผลหนองที่หนังศีรษะ กลากเกลื้อน ด้วยการใช้ดอกหรือรากแห้ง 3-10 กรัม หรือจะดอกสดหรือรากสดประมาณ 15-30 กรัมก็ได้ นำมาบดผสมกับน้ำส้มสายชูแล้วทาบริเวณที่เป็น หรือจะนำไปต้มกับน้ำใช้ชะล้างหรือรับประทานก็ได้ (ดอกยี่เข่ง,ราก)
- เรานิยมปลูกต้นยี่เข่งไว้เป็นไม้ประดับในบ้านหรือในสวน หรือจะปลูกเป็นแนวรั้วเขตริมทาง เพราะให้ดอกสีชมพูสีสันสดใส อึดและทนแร้ง และดูแลง่าย (ต้นยี่เข่ง)
- แหล่งอ้างอิง : เว็บไซต์เดอะแดนดอทคอม
- แหล่งอ้างอิงของภาพ : http://www.google.co.th/searchq=ยี่เข่ง
( ที่มาของรูป : http://www.unigang.com/Article/4561 )
1.การออกแบบผลิตภัณฑ์ หมายถึง กระบวนการสร้างสรรค์ประเภทหนึ่งของมนุษย์มีความสวยงามโดดเด่น โดยใช้องค์ประกอบของทฤษฏีต่างๆ และใช้วัสดุนานาชนิดเป็นวัตถุดิบในการสร้างสรรค์ผลงาน
( ที่มา : http://esan.nfe.go.th/elearning/courses/67/chap7_1.htm )
2.การออกแบบผลิตภัณฑ์ หมายถึง กิจกรรมการแก้ปัญหาเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายหรือจุดประสงค์ที่ตั้งไว้เป็นการกระทำของมนุษย์ ด้วยจุดประสงค์ที่ต้องการแจ้งผลเป็นสิ่งใหม่ๆ
( ที่มา : http://netra.lpru.ac.th/~weta/ch-2/ )
3..การออกแบบผลิตภัณฑ์ หมายถึง การถ่ายทอดรูปแบบจากความคิดออกมาเป็นผลงาน ที่ผู้อื่น
สามารถมองเห็น รับรู้ หรือสัมผัสได้ เพื่อให้มีความเข้าใจในผลงานร่วมกัน
(ที่มา : http://www.l3nr.org/posts/319321 )
สรุป ความเห็นของข้าพเจ้า "การออกแบบผลิตภัณฑ์ " หมายถึง การสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้องค์ประกอบของทฤษฎีต่างๆมาช่วย และเป็น ผลงานที่สามารถมองเห็น รับรู้ หรือสัมผัสได้
4."มารู้จักโปรแกรม Google SketchUp กันเถอะ"
ความหมายของโปรแกรม “Sketch up”
Sketch up คืออะไร
คือโปรแกรมที่ใช้ในการออกแบบ Model 3 มิติ สามารถสร้างงานเขียนแบบหรือภาพจำลองได้อย่างสะดวกและรวดเร็วแม้ว่าผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ในการทำงานโปรแกรม 3 มิติมาก่อน ก็สามารถที่จะเรียนรู้ และลองหัดสร้าง Model 3 มิติด้วยเครื่องมือที่มีให้ในโปรแกรมได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วโดยที่โปรแกรมอื่นๆ ไม่สามารถทำได้
Sketch up ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท @Last ในปี ค.ศ.1999 ซึ่งมีเป้าหมายที่จะ
- พัฒนาโปรแกรมออกแบบ Model 3 มิติ โดยมี Interface ที่เรียบง่ายและใช้งานสะดวก
- ให้ผู้ใช้งานสนุกกับการสร้างและออกแบบ
- ทำให้ผู้ออกแบบมีลูกเล่นในส่วนของงานออกแบบและนำเสนอ
ที่น่าสนใจก็คือ Sketch Up มีฟังก์ชั่นสำหรับการ Get Models และ Share Models โดยที่สามารถนำไฟล์ชิ้นงานสามมิติที่มีผู้อื่นได้ทำไว้แล้ว หรือที่เราได้สร้างขึ้นนำไปแบ่งปันกันผ่านระบบเครือข่าย โดยสร้างระบบคลังข้อมูลขึ้นมาภายใต้ชื่อว่า 3D Warehouse
แหล่งที่มาของข้อมูล : https://www.facebook.com/permalink.php?id=572601892776502&story_fbid=572776126092412
แหล่งที่มาของภาพ : http://paulhami.edublogs.org/2012/01/30/google-sketchup-an-extra-special-tool-for-drawing-and-3d-modelling/
ภาพเครื่องมือของ โปรแกรม "Sketch Up"
แหล่งที่มาของภาพ : http://thummnooon17102.blogspot.com
5.สบู่สมุนไพรว่านหางจระเข้
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Aloe vera (L.) Burm.f.
ชื่อพ้อง : Aloe barbadensis Mill
ชื่อสามัญ : Star cactus, Aloe, Aloin, Jafferabad, Barbados
วงศ์ : Asphodelaceae
ชื่ออื่น : หางตะเข้ (ภาคกลาง) ว่านไฟไหม้ (ภาคเหนือ)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ล้มลุกอายุหลายปี สูง 0.5-1 เมตร ลำต้นเป็นข้อปล้องสั้น ใบ เป็นใบเดี่ยว
ส่วนที่ใช้ : ยางในใบ น้ำวุ้น เนื้อวุ้น และเหง้า
สรรพคุณ : ใบ - รสเย็น ตำผสมสุรา พอกฝี
ทั้งต้น - รสเย็น ดองสุราดื่มขับน้ำคาวปลา
ราก - รสขม รับประทานถ่ายโรคหนองใน แก้มุตกิด
ยางในใบ - เป็นยาระบาย
น้ำวุ้นจากใบ - ล้างด้วยน้ำสะอาด ฝานบางๆ รักษาแผลสดภายนอก น้ำร้อนลวก
ไฟไหม้ ทำให้แผลเป็นจางลง ดับพิษร้อน ทาผิวป้องกันและรักษาอาการไหม้จากแสงแดด
ทาผิวรักษา สิวฝ้า และขจัดรอยแผลเป็น
เหง้า - ต้มรับประทานแก้หนองใน โรคมุตกิด
แหล่งที่มา : http://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs_17_3.htm
...ก่อนอื่นเรามาแนะนำวัสดุอุปกรณ์และสารเคมีก่อนเลยค่ะ...
วัสดุอุปกรณ์
3.เตาแก๊ส
4.แม่พิมพ์
5.เครื่องชั่ง
6.ช้อน
สารเคมี
2.น้ำว่านหางจระเข้
3.สบู่
วิธีการทำ
1.ตัดว่านหางจระเข้มาจากต้น
2.ปอกเปลือกว่านหางจระเข้
3.แยกน้ำและเนื้อของว่านหางจระเข้
4.นำน้ำใส่ลงไปในหม้อเล็กน้อยและนำสบู่ที่ขูดไว้ใส่ลงไป
5.ค่อยๆเติมน้ำว่านหางจระเข้ลงในหม้อทีละนิดจนหมดและคนไปเรื่อยๆ
6.จากนั้นค่อยๆเติมเนื้อว่านหางจระเข้ลงในหม้อทีละนิดจนหมดและคนไปเรื่อยๆ
7.เมื่อคนจนเหนียวแล้วให้ตักสบู่ใส่แม่พิมพ์
สรุป
จากการนำไปใช้เป็นระยะเวลา 2 อาทิตย์ ในกลุ่มของวัยรุ่น อายุประมาณ 12-18 ปี
เป็นเพศหญิง 19 คน และเพศชาย 11 คน พบว่า มือของผู้ใช้นุ่มแล้วชุ่มชื่นขึ้นกว่าเดิม
และมือก็มีกลิ่นหอมขึ้น โดยที่ผู้ใช้สบู่นี้ไม่เกิดอาการแพ้เลย ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า
สบู่สมุนไพรว่านหางจระเข้สามารถทำและนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อผู้คนได้จริงตาม
จุดประสงค์ที่ตั้งไว้โดยไม่เกิดอาการแพ้
.............................................................................................
"งานจากโปรแกรม Google SketchUp8"
1.งานออกแบบชิ้นที่ 1
2.งานออกแบบชิ้นที่ 2
3.งานออกแบบชิ้นที่ 3
4.งานออกแบบชิ้นที่ 4
5.สบู่สมุนไพรว่านหางจระเข้
แนะนำ .. ว่านหางจระเข้
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Aloe vera (L.) Burm.f.
ชื่อพ้อง : Aloe barbadensis Mill
ชื่อสามัญ : Star cactus, Aloe, Aloin, Jafferabad, Barbados
วงศ์ : Asphodelaceae
ชื่ออื่น : หางตะเข้ (ภาคกลาง) ว่านไฟไหม้ (ภาคเหนือ)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ล้มลุกอายุหลายปี สูง 0.5-1 เมตร ลำต้นเป็นข้อปล้องสั้น ใบ เป็นใบเดี่ยว
ออกเรียงเวียนรอบต้น ใบหนาและยาว โคนใบใหญ่ ส่วนปลายใบแหลม ขอบใบเป็นหนามแหลมห่างกัน
แผ่นใบหนาสีเขียว มีจุดยาวสีเขียวอ่อน อวบน้ำ ข้างในเป็นวุ้นใสสีเขียวอ่อน ดอก ออกเป็นช่อกระจะที่
แผ่นใบหนาสีเขียว มีจุดยาวสีเขียวอ่อน อวบน้ำ ข้างในเป็นวุ้นใสสีเขียวอ่อน ดอก ออกเป็นช่อกระจะที่
ปลายยอด ก้านช่อดอกยาว ดอกสีแดงอมเหลือง โคมเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 6 แฉก
เรียงเป็น 2 ชั้น รูปแตร ผล เป็นผบแห้งรูปกระสวย
เรียงเป็น 2 ชั้น รูปแตร ผล เป็นผบแห้งรูปกระสวย
ส่วนที่ใช้ : ยางในใบ น้ำวุ้น เนื้อวุ้น และเหง้า
สรรพคุณ : ใบ - รสเย็น ตำผสมสุรา พอกฝี
ทั้งต้น - รสเย็น ดองสุราดื่มขับน้ำคาวปลา
ราก - รสขม รับประทานถ่ายโรคหนองใน แก้มุตกิด
ยางในใบ - เป็นยาระบาย
น้ำวุ้นจากใบ - ล้างด้วยน้ำสะอาด ฝานบางๆ รักษาแผลสดภายนอก น้ำร้อนลวก
ไฟไหม้ ทำให้แผลเป็นจางลง ดับพิษร้อน ทาผิวป้องกันและรักษาอาการไหม้จากแสงแดด
ทาผิวรักษา สิวฝ้า และขจัดรอยแผลเป็น
เนื้อวุ้น - เหน็บทวาร รักษาริดสีดวงทวาร
เหง้า - ต้มรับประทานแก้หนองใน โรคมุตกิด
แหล่งที่มา : http://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs_17_3.htm
...ก่อนอื่นเรามาแนะนำวัสดุอุปกรณ์และสารเคมีก่อนเลยค่ะ...
วัสดุอุปกรณ์
3.เตาแก๊ส
4.แม่พิมพ์
5.เครื่องชั่ง
6.ช้อน
7.เครื่องปั่น
สารเคมี
1.เนื้อว่านหางจระเข้
2.น้ำว่านหางจระเข้
3.สบู่
วิธีการทำ
1.ตัดว่านหางจระเข้มาจากต้น
2.ปอกเปลือกว่านหางจระเข้
3.แยกน้ำและเนื้อของว่านหางจระเข้
4.นำน้ำใส่ลงไปในหม้อเล็กน้อยและนำสบู่ที่ขูดไว้ใส่ลงไป
5.ค่อยๆเติมน้ำว่านหางจระเข้ลงในหม้อทีละนิดจนหมดและคนไปเรื่อยๆ
6.จากนั้นค่อยๆเติมเนื้อว่านหางจระเข้ลงในหม้อทีละนิดจนหมดและคนไปเรื่อยๆ
7.เมื่อคนจนเหนียวแล้วให้ตักสบู่ใส่แม่พิมพ์
8.รอจนแข็งก็จะได้สบู่สมุนไพรว่านหางจระเข้
สรุป
จากการนำไปใช้เป็นระยะเวลา 2 อาทิตย์ ในกลุ่มของวัยรุ่น อายุประมาณ 12-18 ปี
เป็นเพศหญิง 19 คน และเพศชาย 11 คน พบว่า มือของผู้ใช้นุ่มแล้วชุ่มชื่นขึ้นกว่าเดิม
และมือก็มีกลิ่นหอมขึ้น โดยที่ผู้ใช้สบู่นี้ไม่เกิดอาการแพ้เลย ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า
สบู่สมุนไพรว่านหางจระเข้สามารถทำและนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อผู้คนได้จริงตาม
จุดประสงค์ที่ตั้งไว้โดยไม่เกิดอาการแพ้
.............................................................................................
"งานจากโปรแกรม Google SketchUp8"
1.งานออกแบบชิ้นที่ 1
งานออกแบบชิ้นที่ 1 "ภาพบ้านในฝัน"
งานออกแบบชิ้นที่ 2 "กระปุกออมสิน"
3.งานออกแบบชิ้นที่ 3
งานออกแบบชิ้นที่ 3 "ภาพบรรจุภัณฑ์"
4.งานออกแบบชิ้นที่ 4
งานออกแบบชิ้นที่ 4 "ภาพบ้านในฝันของฉัน"
จบแล้วนะคะ...กับงานต่างๆที่ได้ทำมาในภาคเรียนที่ 1
ของ ด.ญ.จิดาภา แซ่ตั้ง เลขที่ 7 ม.1/1
.............................................................................................